สมจริงทุกทิศทางผ่าน Wi-Fi Speaker ด้วย JBL One App
สมจริงทุกทิศทางผ่าน Wi-Fi Speaker ด้วย JBL One App
สมจริงทุกทิศทางผ่าน Wi-Fi Speaker ด้วย JBL One App
ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับ JBL ONE App เรามารู้จักกับการเชื่อมต่อลำโพงไร้สายแบบ Wi-Fi กันให้มากขึ้น ว่าวิธีการส่งสัญญาณแตกต่างยังไงกับ Bluetooth เพราะจากที่เห็นก็เป็นการเชื่อมต่อแบบไร้สายเหมือนกันประสิทธิภาพก็คงจะไม่แตกต่างกันมาก แถม Bluetooth อาจจะสะดวกมากกว่าอีก แต่ทำไมถึงต้องมีการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi มาดูกัน!
ขอบอกว่าจริง ๆ แล้วการเชื่อมต่อลำโพงแบบ Wi-Fi ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ใหม่มากนัก แต่ก็คุณภาพเสียงค่อนข้างที่จะแตกต่างกันเพราะการส่งสัญญาณแบบ Bluetooth จะมี Bandwidth (ความกว้างของคลื่นความถี่) ที่แคบกว่า Wi-Fi รวมถึงระยะทางในการทำงานสั้นกว่า และใช้พลังงานต่ำ ส่งผลให้การรับส่งข้อมูลในเรื่องของเสียงอาจลดประสิทธิภาพลง แต่ก็ได้มีการพัฒนาการเชื่อมต่อมาเป็นแบบ Bluetooth LE Audio ซึ่งจะให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าเดิม ใช้พลังงานที่ต่ำทำให้ใช้งานได้นานมากขึ้น และหูฟัง ลำโพง JBL บางรุ่นก็ได้ผลิต Bluetooth LE Audio อาทิหูฟังรุ่น Tour Pro2, Tour One M2, Tune 770NC ลำโพงรุ่น Xtreme 4, Clip 5 และ Go4
ต่อมาในขณะที่ Wi-Fi สามารถเล่นเพลงได้อย่าง Realtime แม้จะเป็นเพลงระดับ Hi-Res ก็ทำให้มีการดีเลย์ที่น้อยมาก ๆ และสามารถใช้งานร่วมกับลำโพงหลาย ๆ ตัวแบบ Multi-Room ในวง Wi-Fi เดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะต้องใช้วิธีการเชื่อมต่อผ่าน Application อย่าง JBL ONE App ซึ่งเป็นวิธีการเชื่อมต่อที่ง่ายขึ้น ซัพพอร์ตการใช้งานได้อย่างอิสระ และลำโพง JBL ที่สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ก็มีรุ่นดังนี้ Authentics Series, Soundbar 9.1 3D, Bar 1300, Bar 1000, Bar 800, Bar 500, Bar 300, Partybox Ultimate, Boombox 3 Wi-Fi และ Charge5 Wi-fi
จากที่อ่านมาเราจะเห็นว่าแต่ว่าการเชื่อมต่อในรูปแบบ Wi-Fi กับ Bluetooth นั้นมีความแตกต่างกันพอสมควร Wi-Fi จะได้ในประสิทธิภาพของเสียง และการเชื่อมต่อลำโพงได้อย่างหลากหลาย ส่วน Bluetooth จะได้ความสะดวก และง่ายต่อการใช้งานในตอนที่เราต้องการความไวในการเชื่อมต่อ หรือฟังชิวๆ กับเพื่อนในปาร์ตี้สังสรรค์ คราวนี้เรามาทำความรู้จักกับ JBL ONE App กัน ว่าคืออะไร และสามารถทำอะไรได้บ้าง
JBL ONE App เป็นแอปพลิเคชันที่ทำมาเพื่อใช้งานร่วมกับลำโพงในแบรนด์ JBL ที่สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ พร้อมให้ควบคุมลำโพง JBL Bar Series ได้เหมือนใช้งานผ่านรีโมท และยังปรับแต่ง EQ เสียงได้อย่างอิสระ ให้เป็นไปตามเสียงที่เราต้องการ มีฟังก์ชัน Moment ตั้งค่าเพลย์ลิสต์เพลงโปรดจากแพลตฟอร์ม Music Streaming อื่น ๆ ผ่านแอปพลิเคชันได้เลย พร้อมทั้งตั้งเวลา Auto Off หยุดเล่นเพลงได้อีกด้วย และที่เจ๋งก็คือ 3rd Party Service ที่ให้เชื่อมต่อกับ AirPlay, Chromecast Built-in, Amazon Alexa และ Spotify Connect ตอบโจทย์สาย Streaming อย่างมากเพราะใช้งานได้หลากหลายแพลตฟอร์ม
สามารถรับชมการเชื่อมต่อได้ที่ >>>
นอกจากที่กล่าวไปทั้งหมดในการเชื่อมต่อ Wi-Fi Speaker ด้วย JBL One App เชื่อมต่อได้อย่างอิสระไม่จำกัดว่าต้องเป็นลำโพงรุ่นเดียวกันเท่านั้น เราสามารถนำ JBL ในรุ่นเหล่านี้ Authentics Series, Soundbar 9.1 3D, Bar 1300, Bar 1000, Bar 800, Bar 500, Bar 300, Partybox Ultimate, Boombox 3 Wi-Fi และ Charge5 Wi-fi มาเชื่อมต่อกันได้แบบ Multi-Room อย่างไม่จำกัดจำนวนตัว เพื่อเสียงที่สมจริงรอบทิศทาง พร้อมทั้งตั้งค่าเสียงหรืออื่นๆ ได้อย่างที่เราต้องการอีกด้วย
ดูลำโพง Wi-Fi Speakers ได้ที่ https://www.mahajak.com/th/audio-category-page-th